คุณจะออกเดินทางจาก บาเซิล บาดิสเชอร์ บาห์นฮอฟ ที่ตั้งอยู่ตรงกลางใจกลางเมือง บาเซิล และสามารถชมวิวทิวทัศน์ที่สวยงามของเส้นทางในขณะที่คุณมาถึงที่ ฟิเรนเซ เซ็นตา มาเรีย โนเวลลา ซึ่งตั้งอยู่ในใจกลางของ ฟลอเรนซ์.
คุณจะออกเดินทางจาก บาเซิล บาดิสเชอร์ บาห์นฮอฟ ที่ตั้งอยู่ตรงกลางใจกลางเมือง บาเซิล และสามารถชมวิวทิวทัศน์ที่สวยงามของเส้นทางในขณะที่คุณมาถึงที่ ฟิเรนเซ เซ็นตา มาเรีย โนเวลลา ซึ่งตั้งอยู่ในใจกลางของ ฟลอเรนซ์.
Imagine embarking on a train journey that takes you from the picturesque city of Basel, tucked away in Switzerland, to the charming city of Florence, nestled in the heart of Italy. This journey promises not only breathtaking views of the European countryside but also a delightful exploration of iconic cities and towns along the way.
The quickest route from Basel to Florence takes you through some of Europe's most captivating destinations. The main stations for this journey include Basel SBB in Basel and Firenze Santa Maria Novella in Florence. With a distance of approximately 369 miles (594 kilometers) separating the two cities, the journey provides ample opportunities to immerse yourself in the beauty of the region.
As the train chugs away from Basel, it first ventures through the stunning Swiss Alps, with towering peaks, pristine lakes, and quaint alpine villages dotting the landscape. In no time, you find yourself in the vibrant city of Zurich. This bustling metropolis offers a splendid mix of modernity and tradition, with its sleek architectural marvels and historic Old Town.
Continuing on the journey, the train crosses the border into neighbouring Austria, where it makes a brief stop in Innsbruck. Nestled among the Austrian Alps, Innsbruck presents a picture-perfect setting that is sure to captivate any traveler. The city's rich imperial heritage is evident in its magnificent palaces, such as the Hofburg and Schloss Ambras.
Next, the train makes its way through the scenic beauty of northern Italy, passing cities like Verona, renowned for its Shakespearean connection and timeless Roman amphitheater. The journey then takes you through Bologna, a gastronomic paradise and home to the oldest university in the Western world.
Finally, after traversing the captivating Italian countryside, the train arrives at its destination: Florence. Stepping off the train at Firenze Santa Maria Novella, you are greeted by the unmistakable beauty of this Renaissance city. The iconic item you cannot miss upon arrival is the world-famous Florence Cathedral, with its magnificent dome dominating the skyline.
In Florence, immerse yourself in the city's rich artistic and cultural heritage. Visit the Uffizi Gallery to witness masterpieces by renowned artists such as Leonardo da Vinci and Botticelli. Explore the historic Ponte Vecchio, a picturesque bridge lined with shops. And indulge in the delectable flavors of Tuscan cuisine at the city's charming trattorias.
Embarking on a train journey from Basel to Florence not only offers convenience and efficiency but also provides an opportunity to witness the enchanting beauty of Europe. So, pack your bags, hop on the train, and embark on this unforgettable adventure through captivating cities, stunning landscapes, and timeless art.
รถไฟจาก บาเซิล ไปยัง ฟลอเรนซ์ ใช้เวลาเท่าไหร่?
การเดินทางโดยรถไฟจาก บาเซิล ไปยัง ฟลอเรนซ์ ใช้เวลาประมาณ 6-7 ชั่วโมงขึ้นอยู่กับประเภทของรถไฟและจำนวนการเปลี่ยนขบวน.
การเดินทางที่เร็วที่สุดจาก บาเซิล ไปยัง ฟลอเรนซ์ โดยรถไฟคืออะไร?
การเดินทางที่เร็วที่สุดคือการใช้บริการรถไฟความเร็วสูงที่มีการเปลี่ยนขบวนเพียงครั้งเดียวใน มิลาน.
รถไฟจาก บาเซิล ไปยัง ฟลอเรนซ์ ราคาเท่าไหร่?
ราคาตั๋วโดยสารรถไฟจาก บาเซิล ไปยัง ฟลอเรนซ์ เริ่มต้นที่ประมาณ 50-150 € ขึ้นอยู่กับชั้นบริการและการจองล่วงหน้า.
มีรถไฟวิ่งตรงจาก บาเซิล ไปยัง ฟลอเรนซ์ หรือไม่?
ไม่ มีรถไฟวิ่งตรงจาก บาเซิล ไปยัง ฟลอเรนซ์; ผู้โดยสารจำเป็นต้องเปลี่ยนขบวนรถไฟที่ มิลาน.
ระยะทางจาก บาเซิล ไปยัง ฟลอเรนซ์ โดยรถไฟเท่าไหร่?
ระยะทางโดยรถไฟจาก บาเซิล ไปยัง ฟลอเรนซ์ คือประมาณ 700 กิโลเมตร.
รถไฟจะหยุดที่เมืองใดบ้างในเส้นทางจาก บาเซิล ไปยัง ฟลอเรนซ์?
รถไฟจาก บาเซิล ไปยัง ฟลอเรนซ์ มักจะหยุดที่ มิลาน และบางครั้งอาจหยุดที่ ลูกาโน และ เจนัว.
บาเซิล เป็นเมืองที่มีเสน่ห์ทางประวัติศาสตร์และสถาปัตยกรรมที่น่าสำรวจ นอกจากนี้ยังเป็นสถานที่ที่อุดมไปด้วยอาหารสวิสที่แท้จริง เตรียมตัวให้พร้อมสำหรับการเดินทางที่จะทำให้คุณหลงใหลในทุกมุมมองและรสชาติของบาเซิล
มหาวิหารบาเซิล (Basel Minster) เป็นสัญลักษณ์ของเมืองที่มีความสำคัญทางประวัติศาสตร์และสถาปัตยกรรม สร้างขึ้นเมื่อศตวรรษที่ 12 เป็นสถานที่ที่ไม่ควรพลาด ชมภายนอกที่ตกแต่งอย่างสวยงามและเข้าชมภายในเพื่อเห็นงานศิลปะที่งดงาม
พิพิธภัณฑ์ศิลปะ (Kunstmuseum Basel) เป็นหนึ่งในพิพิธภัณฑ์ศิลปะที่เก่าแก่และใหญ่ที่สุดในสวิตเซอร์แลนด์ ตั้งอยู่ในใจกลางเมือง สำรวจคอลเลกชันที่มีตั้งแต่ศิลปะสมัยกลางจนถึงผลงานสมัยใหม่
พิพิธภัณฑ์ Tinguely อุทิศให้กับศิลปินชาวสวิส Jean Tinguely ที่เป็นที่รู้จักจากงานประติมากรรมเคลื่อนไหว พิพิธภัณฑ์ตั้งอยู่ใกล้แม่น้ำไรน์ ซึ่งเป็นสถานที่ที่ดีเยี่ยมสำหรับการเดินเล่นหลังจากชมพิพิธภัณฑ์
พิพิธภัณฑ์อารยธรรมโลก (Museum der Kulturen Basel) ตั้งอยู่ใกล้กับมหาวิหารบาเซิล ขึ้นชื่อเรื่องการจัดแสดงที่หลากหลายเกี่ยวกับวัฒนธรรมต่าง ๆ ทั่วโลก มาที่นี่เพื่อขยายความเข้าใจเกี่ยวกับวัฒนธรรมและประวัติศาสตร์ของมนุษย์
สะพานมิตเทิลบรุคเก (Mittlere Brücke) เป็นสะพานที่เก่าแก่ที่สุดในบาเซิล สร้างขึ้นเมื่อปี 1226 การเดินเล่นบนสะพานนี้ให้ทัศนียภาพที่สวยงามของเมืองและแม่น้ำไรน์
สวนพฤกษศาสตร์ (Botanischer Garten der Universität Basel) ให้คุณได้ผ่อนคลายในบรรยากาศที่เงียบสงบ มีพันธุ์พืชนานาชนิด แหล่งเรียนรู้ที่ดีสำหรับผู้ที่สนใจในด้านพฤกษศาสตร์
เมืองเก่าบาเซิล (Basel’s Old Town) เดินเล่นในเมืองเก่าและสัมผัสกับบ้านเรือนแบบเก่าและร้านค้าที่มีเสน่ห์ อย่าลืมลิ้มลอง เค้ก Basler Läckerli ขนมแบบดั้งเดิมของบาเซิล
การเดินทางรอบ บาเซิล จะไม่สมบูรณ์หากไม่ได้สัมผัสกับการผสมผสานของวัฒนธรรม, การต้อนรับที่อบอุ่น, และภูมิทัศน์ที่งดงาม ทุกมุมของบาเซิลมีเรื่องราวที่รอคุณมาค้นหา
เมืองฟลอเรนซ์เป็นหนึ่งในมุกมณีของอิตาลีที่รังสรรค์ความงามทางประวัติศาสตร์และสถาปัตยกรรมอันน่าทึ่ง ตั้งแต่ความอลังการของคาทีดรัลไปจนถึงมาสเตอร์พีซของศิลปินระดับโลก ต่อไปนี้คือรายการสถานที่ท่องเที่ยวที่คุณไม่ควรพลาดเมื่อมาเยือนเมืองแห่งนี้:
มหาวิหารซานตา มาเรีย เดล ฟิออเร (Duomo di Firenze): เป็นสัญลักษณ์ของเมืองที่โดดเด่นด้วยหลังคาโดมขนาดใหญ่และการตกแต่งภายในที่อลังการ ตั้งอยู่ใจกลางเมือง มหาวิหารเปิดให้เข้าชมตั้งแต่เวลา 10:00-17:00 ค่าเข้าชม €18 แนะนำให้จองตั๋วล่วงหน้าเพื่อความสะดวกในการเข้าชมการเดินทางรอบเมืองฟลอเรนซ์สามารถทำได้ง่ายด้วยระบบขนส่งสาธารณะที่มีประสิทธิภาพหรือการเดินเท้าเพื่อสัมผัสบรรยากาศที่แท้จริงของเมือง มีร้านอาหารและคาเฟ่มากมายรอบๆ จุดท่องเที่ยวที่ให้บริการอาหารอิตาเลียนแท้ๆ ซึ่งคุณไม่ควรพลาดการลิ้มลองพิซซ่าและเจลาโต้ที่เลื่องชื่อ
ใจกลางบาเซิล ประเทศสวิตเซอร์แลนด์ ตั้งอยู่สถานีรถไฟหลักที่มีชื่อว่า Basel SBB ซึ่งเป็นประตูสู่การเดินทางข้ามชาติไปยังเยอรมนีและฝรั่งเศส นอกจากนี้ยังมีสถานี Basel Badischer Bahnhof ที่รับผิดชอบการเดินทางไปยังเยอรมนีโดยตรง และสถานี Basel St. Johann ซึ่งให้บริการเส้นทางภายในเมืองและภูมิภาค
สถานี Basel SBB ตั้งอยู่ที่ Centralbahnplatz 1, 4051 Basel, เปิดบริการทุกวันตั้งแต่เวลา 04:30 ถึง 01:30 น. เพื่อความสะดวกของผู้โดยสาร บริการเก็บกระเป๋า มีให้บริการที่สถานี โดยมีตัวเลือกทั้งระบบอัตโนมัติและบริการจากพนักงาน ซึ่งช่วยให้ผู้เดินทางสามารถเพลิดเพลินกับการท่องเที่ยวในเมืองได้อย่างไร้กังวล
สถานีรถไฟหลักของฟลอเรนซ์คือ ฟลอเรนซ์ ซานตา มาเรีย โนเวลลา (Firenze Santa Maria Novella) ซึ่งเป็นศูนย์กลางการเดินทางที่สำคัญของเมือง นอกจากนี้ยังมีสถานีอื่นๆ เช่น ฟลอเรนซ์ คัมโป ดิ มาร์เต และ ฟลอเรนซ์ ริฟเรดี้ ที่ให้บริการเชื่อมต่อไปยังหลายพื้นที่ในเมืองและพื้นที่โดยรอบเพื่อความสะดวกสบายในการเดินทางผู้เดินทางสามารถใช้บริการรถไฟเหล่านี้ไปยังจุดหมายปลายทางต่างๆ ได้อย่างรวดเร็วและสะดวกสบาย
สถานี ฟลอเรนซ์ ซานตา มาเรีย โนเวลลา ตั้งอยู่ที่ Piazza della Stazione, 50123 Firenze, พร้อมให้บริการตั้งแต่เวลา 04:30 น. ถึง 01:30 น. ทุกวันบริการเก็บกระเป๋าที่สถานีนี้เป็นที่นิยมสำหรับนักท่องเที่ยวที่ต้องการสำรวจเมืองโดยไม่ต้องแบกรับภาระของสัมภาระ เป็นอีกหนึ่งวิธีที่ทำให้การเดินทางภายในฟลอเรนซ์และการเชื่อมต่อไปยังเมืองอื่นๆ ในอิตาลีเป็นไปอย่างราบรื่นและสะดวกสบาย
จองล่วงหน้า:
เช่นเดียวกับค่าตั๋วเครื่องบิน ราคาตั๋วรถไฟมีแนวโน้มที่จะเพิ่มขึ้นเมื่อใกล้ถึงวันเดินทาง การจองล่วงหน้าหลายสัปดาห์หรือหลายเดือนสามารถช่วยคุณประหยัดเงินได้มาก
เดินทางในช่วงเวลาที่ไม่ค่อยมีคนใช้บริการ:
หลีกเลี่ยงการเดินทางในช่วงเวลาที่มีคนใช้บริการมาก เช่น เช้าวันธรรมดาและช่วงเย็น เลือกเดินทางในช่วงกลางวัน ช่วงเย็น หรือช่วงกลางสัปดาห์เมื่อมีความต้องการน้อยกว่า
พิจารณารถไฟที่ช้าลงหรือเส้นทางที่ไม่วิ่งตรง:
รถไฟด่วนหรือรถไฟความเร็วสูงอาจประหยัดเวลา แต่ก็มักจะแพงกว่า การเลือกใช้บริการรถไฟท้องถิ่นหรือบริการที่ช้าลงสามารถลดค่าโดยสารได้
มองหาข้อเสนอพิเศษและโปรโมชั่น:
ผู้ประกอบการรถไฟบางครั้งมีโปรโมชั่นหรือข้อเสนอพิเศษ โดยเฉพาะในช่วงฤดูที่ไม่ใช่ฤดูท่องเที่ยว การสมัครรับจดหมายข่าวอาจคุ้มค่า นอกจากนี้ยังมีส่วนลดตั๋วกลุ่มหรือตั๋วไปกลับบางครั้ง ดังนั้นพิจารณาตัวเลือกเหล่านี้หากเหมาะสมกับแผนการเดินทางของคุณ