คุณจะออกเดินทางจาก เบอร์กาโม ที่ตั้งอยู่ตรงกลางใจกลางเมือง เบอร์กาโม และสามารถชมวิวทิวทัศน์ที่สวยงามของเส้นทางในขณะที่คุณมาถึงที่ เจโนวา ปียซซ่า ปรินชิเป ซึ่งตั้งอยู่ในใจกลางของ เจนัว.
คุณจะออกเดินทางจาก เบอร์กาโม ที่ตั้งอยู่ตรงกลางใจกลางเมือง เบอร์กาโม และสามารถชมวิวทิวทัศน์ที่สวยงามของเส้นทางในขณะที่คุณมาถึงที่ เจโนวา ปียซซ่า ปรินชิเป ซึ่งตั้งอยู่ในใจกลางของ เจนัว.
Have you ever dreamed of embarking on a picturesque train journey through the stunning landscapes of Northern Italy? Look no further than the route from Bergamo to Genoa! This route promises an unforgettable experience, with breathtaking views, fascinating cities, and a touch of Italy's rich heritage.
Starting from Bergamo, a charming town nestled in the Lombardy region, you'll board the train at Bergamo Station. As you depart, take in the mesmerizing architectural wonders, such as the Renaissance-era Santa Maria Maggiore Basilica and the medieval fortress of Rocca di Bergamo.
Setting off towards Genoa, your train will pass through Brescia, a city known for its beautiful historic center and magnificent Roman ruins. Next, you'll reach Milan, Italy's vibrant fashion capital. If time permits, venture into the bustling city center to admire the splendid Milan Cathedral and Leonardo da Vinci's iconic Last Supper.
Continuing on, the train journey will pass through Genova Piazza Principe Station, marking your arrival in Genoa – a true gem of the Italian Riviera. Explore the UNESCO-listed old town, known as the "Caruggi," with its narrow medieval alleyways filled with delightful shops, restaurants, and cafes.
Traversing a distance of approximately 200 kilometers, this train journey between Bergamo and Genoa offers a convenient travel duration of around 2 to 2.5 hours, providing ample time to enjoy the picturesque scenery along the way.
The departure from Bergamo Station is characterized by a delightful mix of historic and contemporary vibes, while the arrival at Genova Piazza Principe Station is a gateway to Genoa's enchanting Mediterranean atmosphere.
Be sure to savor the local delicacies at both ends of the journey. In Bergamo, don't miss the chance to indulge in mouthwatering traditional dishes like casoncelli (pasta dumplings) and polenta taragna (cornmeal with melted cheese). In Genoa, treat your taste buds with the renowned pesto alla genovese, fresh seafood, and delicious focaccia.
So, if you're looking for an unforgettable train adventure that combines natural beauty, cultural heritage, and culinary delights, hop on a train from Bergamo to Genoa and let the charm of Northern Italy unfold before your eyes. Bon voyage!
รถไฟจาก เบอร์กาโม ไปยัง เจนัว ใช้เวลาเท่าไหร่?
การเดินทางโดยรถไฟจากเบอร์กาโมถึงเจนัวใช้เวลาประมาณ 3 ถึง 4 ชั่วโมง ขึ้นอยู่กับจำนวนการเปลี่ยนขบวนและเวลารอคอย.
การเดินทางที่เร็วที่สุดจาก เบอร์กาโม ไปยัง เจนัว โดยรถไฟคืออะไร?
การเดินทางโดยรถไฟที่เร็วที่สุดคือการใช้บริการรถไฟฟ้าที่มีการเปลี่ยนขบวนใน มิลาน เพื่อต่อไปยังเจนัว.
รถไฟจาก เบอร์กาโม ไปยัง เจนัว ราคาเท่าไหร่?
ราคาตั๋วรถไฟจากเบอร์กาโมไปเจนัวแตกต่างกันไปตั้งแต่ประมาณ 20€ ถึง 40€ ขึ้นอยู่กับชั้นบริการและการจองล่วงหน้า.
มีรถไฟวิ่งตรงจาก เบอร์กาโม ไปยัง เจนัว หรือไม่?
ไม่มี รถไฟวิ่งตรงจากเบอร์กาโมไปเจนัว ผู้โดยสารจำเป็นต้องเปลี่ยนขบวนที่มิลาน.
ระยะทางจาก เบอร์กาโม ไปยัง เจนัว โดยรถไฟเท่าไหร่?
ระยะทางโดยรถไฟระหว่างเบอร์กาโมและเจนัวคือประมาณ 200 กิโลเมตร.
รถไฟจะหยุดที่เมืองใดบ้างในเส้นทางจาก เบอร์กาโม ไปยัง เจนัว?
รถไฟบนเส้นทางนี้มักหยุดที่ มิลาน ซึ่งเป็นจุดเปลี่ยนขบวนสำหรับเส้นทางไปเจนัว.
เบอร์กาโม เป็นเมืองที่มีเสน่ห์ใน อิตาลี โดดเด่นด้วยประวัติศาสตร์และสถาปัตยกรรมที่น่าตื่นตาตื่นใจ ซึ่งทำให้มีจุดชมที่คุณไม่ควรพลาดมากมาย
เมืองเก่าแก่ (Città Alta): สถานที่ที่สำคัญที่สุดในเบอร์กาโม เดินผ่านกำแพงเมืองโบราณและสัมผัสบรรยากาศของยุคกลาง ตำแหน่งที่ตั้งอยู่บนเนินเขาให้วิวที่สวยงามของเมืองล่าง เปิดทุกวันไม่มีค่าเข้าชม ใช้เวลาเดินประมาณ 1 ชั่วโมงเพื่อชมเมืองและสถาปัตยกรรมโบราณ. ปราสาทซานวิจิลิโอ (Castello di San Vigilio): ตั้งอยู่ในเมืองเก่าแก่ แหล่งชมวิวที่ดีที่สุดของเมือง สามารถเดินขึ้นไปหรือขึ้นรถเคเบิ้ล ค่าเข้าชมฟรี. มหาวิหารดูโอโม่เบอร์กาโม (Duomo di Bergamo): เป็นมหาวิหารที่งดงามซึ่งมีงานศิลปะและสถาปัตยกรรมแบบโกธิกและเรเนสซองส์ ตั้งอยู่ในเมืองเก่าแก่ เปิดทุกวัน ไม่มีค่าเข้าชม. บาซิลิกา ซานตา มาเรีย มัจจอเร (Basilica di Santa Maria Maggiore): มีการตกแต่งภายในที่อลังการ ตั้งอยู่ใกล้มหาวิหารดูโอโม่ เเปิดทุกวัน ไม่มีค่าใช้จ่ายในการเข้าชม. พิพิธภัณฑ์โบราณคดี (Museo Archeologico): โชว์วัตถุโบราณจากโรมันและเอทรัสกัน ตั้งอยู่ในเมืองเก่าแก่ เปิดตั้งแต่ 09:30 ถึง 17:30 ค่าเข้าชม €5. โบสถ์ซาน มิเคเล่ อัลโป (Chiesa di San Michele al Pozzo Bianco): มีภาพจิตรกรรมฝาผนังที่สวยงาม ตั้งอยู่ในเมืองเก่าแก่ เปิดทุกวัน ค่าเข้าชมฟรี. ตลาดแห่งเมืองเก่าแก่: ที่นี่เต็มไปด้วยร้านค้าท้องถิ่นและคาเฟ่ที่สามารถลิ้มลอง โปเลนต้า และ คาซอนเซย์ ซึ่งเป็นอาหารพื้นเมืองของเบอร์กาโม.การเดินทางรอบๆ เบอร์กาโม นั้นง่ายดาย เนื่องจากสามารถเดินเท้าไปยังสถานที่สำคัญๆ ได้ง่ายๆ หรือใช้รถเคเบิลขึ้นไปยังเมืองเก่าแก่เพื่อสัมผัสบรรยากาศที่ไม่เหมือนใครของเมืองแห่งนี้
เจนัว (Genoa) เป็นเมืองที่เต็มไปด้วยเสน่ห์ทางประวัติศาสตร์และสถาปัตยกรรมที่น่าตื่นตาตื่นใจ จากอดีตที่รุ่งเรืองเป็นศูนย์กลางการค้าทางทะเล จนถึงวัฒนธรรมที่ล้ำลึก ทำให้เจนัวเป็นเมืองที่ไม่ควรพลาดสำหรับผู้ที่หลงใหลในประวัติศาสตร์และสถาปัตยกรรมยุโรป
ปาลาซโซ ดูคาเล: ตั้งอยู่ในใจกลางเมืองเจนัว สร้างขึ้นในศตวรรษที่ 13 ครั้งหนึ่งเป็นที่ประทับของผู้ปกครองเจนัว ปัจจุบันเปิดให้เข้าชมได้ทุกวัน ค่าเข้าชม €5 ผู้เยี่ยมชมสามารถชื่นชมห้องโถงที่ตกแต่งอย่างหรูหราและผลงานศิลปะจากยุคต่างๆ โบสถ์ซาน ลอเรนโซ: โบสถ์นี้มีเสน่ห์ด้วยสถาปัตยกรรมสไตล์โกธิกและระยะเวลาก่อสร้างที่ยาวนานตั้งแต่ศตวรรษที่ 12 ถึง 14 เปิดบริการทุกวัน ไม่มีค่าใช้จ่ายในการเข้าชม แต่ควรแต่งกายสุภาพ พิพิธภัณฑ์แห่งชาติลิกูเรีย: ก่อตั้งเพื่อจัดแสดงงานศิลปะและวัตถุโบราณจากเจนัวและลิกูเรีย ตั้งอยู่ในพระราชวังสปิโนลา ค่าเข้าชม €7 เปิดทุกวันยกเว้นวันจันทร์ บีโกลิโอโดยักษ์: เป็นตัวอย่างของศิลปะถนนที่โดดเด่นของเจนัว ตั้งอยู่ใน Via del Campo ฟรีไม่มีค่าใช้จ่าย แนะนำให้เดินเล่นในยามเย็น พระราชวังรีโอลี: สร้างขึ้นในศตวรรษที่ 17 สำหรับครอบครัวรีโอลีที่ร่ำรวย เป็นอีกหนึ่งสถานที่ที่ไม่ควรพลาดเพื่อดูการตกแต่งภายในและสวนที่งดงาม ค่าเข้าชม €6 ประตูซัสเซโร: หนึ่งในประตูเมืองโบราณที่ยังคงอยู่ในเจนัว มันเป็นจุดเริ่มต้นที่ดีในการสำรวจเมืองเก่าของเจนัว ไม่มีค่าเข้าชม พิพิธภัณฑ์ซีเมนเตวา: มุ่งเน้นไปที่ประวัติศาสตร์ทางทะเลของเจนัว ตั้งอยู่ใกล้กับท่าเรือ เป็นที่นิยมสำหรับครอบครัว ค่าเข้าชม €5 มีส่วนลดสำหรับเด็กและผู้สูงอายุการเดินทางรอบเมืองเจนัวนั้นเต็มไปด้วยความมหัศจรรย์ที่ผสมผสานระหว่างอดีตและปัจจุบัน ทุกมุมมองของเมืองนี้เต็มไปด้วยเรื่องราวและสถาปัตยกรรมที่ทำให้ผู้เยี่ยมชมหลงใหลไม่รู้ลืม เจนัวคือเมืองที่จะทำให้คุณต้องตื่นตาตื่นใจกับทุกการเดินทาง
สถานีหลักของเบอร์กาโม คือ Bergamo Railway Station ที่มีบทบาทสำคัญในการเชื่อมต่อการเดินทางทั้งภายในและนอกเมืองเบอร์กาโม นอกจากนี้ยังมีสถานีรองอื่นๆ เช่น Bergamo Ospedale ที่ให้บริการเส้นทางสู่โรงพยาบาลและสถานที่สำคัญอื่นๆ ในเมือง การเดินทางระหว่างเมืองใหญ่อย่างมิลาน หรือลิมบิอาเต้ ก็สะดวกสบายและรวดเร็วผ่านระบบรถไฟที่มีมาตรฐานสูง
สถานี Bergamo Railway Station ตั้งอยู่ที่ Piazzale Guglielmo Marconi, 24100 เบอร์กาโม, อิตาลี เปิดให้บริการทุกวันตั้งแต่เวลา 06:00 - 24:00 น. ภายในสถานีมีบริการเก็บกระเป๋า ซึ่งเป็นที่นิยมสำหรับนักท่องเที่ยวที่ต้องการสำรวจเมืองโดยไม่ต้องหิ้วสัมภาระหนักๆ นอกจากนี้ยังมีร้านค้า ร้านอาหาร และบริการต่างๆ ที่จะทำให้การรอรถไฟของคุณไม่น่าเบื่อ
เมืองเจนัวในอิตาลีเป็นที่ตั้งของสถานีรถไฟหลักที่มีชื่อว่าสถานีรถไฟเจนัว ปรินซิปาเล (Genova Piazza Principe) ซึ่งเป็นจุดเชื่อมต่อสำคัญในเครือข่ายการเดินทางทางรถไฟของตัวเมืองและภูมิภาคลิกูเรีย นอกจากนี้ยังมีสถานีรถไฟเจนัว บริโญล (Genova Brignole) ที่ให้บริการเส้นทางทั้งในและนอกเมือง ทำให้การเดินทางไปยังเมืองใหญ่อื่นๆ ในประเทศอิตาลีและยุโรปเป็นไปอย่างราบรื่นและสะดวกสบาย
ที่อยู่ของสถานีรถไฟเจนัว ปรินซิปาเล คือ Piazza Acquaverde, 16126 Genova, อิตาลี สถานีเปิดให้บริการทุกวันจากเวลา 04:30 น. ถึง 01:30 น. ภายในสถานีมีบริการเก็บกระเป๋า ให้ผู้โดยสารสามารถเก็บสัมภาระไว้ชั่วคราวได้อย่างปลอดภัยขณะทำการเดินทางหรือสำรวจเมืองเจนัว บริการนี้เป็นที่นิยมอย่างมากสำหรับนักท่องเที่ยวที่ต้องการความสะดวกในการเดินทางและทำธุระในเมืองโดยไม่มีสัมภาระที่หนักหน่วง
จองล่วงหน้า:
เช่นเดียวกับค่าตั๋วเครื่องบิน ราคาตั๋วรถไฟมีแนวโน้มที่จะเพิ่มขึ้นเมื่อใกล้ถึงวันเดินทาง การจองล่วงหน้าหลายสัปดาห์หรือหลายเดือนสามารถช่วยคุณประหยัดเงินได้มาก
เดินทางในช่วงเวลาที่ไม่ค่อยมีคนใช้บริการ:
หลีกเลี่ยงการเดินทางในช่วงเวลาที่มีคนใช้บริการมาก เช่น เช้าวันธรรมดาและช่วงเย็น เลือกเดินทางในช่วงกลางวัน ช่วงเย็น หรือช่วงกลางสัปดาห์เมื่อมีความต้องการน้อยกว่า
พิจารณารถไฟที่ช้าลงหรือเส้นทางที่ไม่วิ่งตรง:
รถไฟด่วนหรือรถไฟความเร็วสูงอาจประหยัดเวลา แต่ก็มักจะแพงกว่า การเลือกใช้บริการรถไฟท้องถิ่นหรือบริการที่ช้าลงสามารถลดค่าโดยสารได้
มองหาข้อเสนอพิเศษและโปรโมชั่น:
ผู้ประกอบการรถไฟบางครั้งมีโปรโมชั่นหรือข้อเสนอพิเศษ โดยเฉพาะในช่วงฤดูที่ไม่ใช่ฤดูท่องเที่ยว การสมัครรับจดหมายข่าวอาจคุ้มค่า นอกจากนี้ยังมีส่วนลดตั๋วกลุ่มหรือตั๋วไปกลับบางครั้ง ดังนั้นพิจารณาตัวเลือกเหล่านี้หากเหมาะสมกับแผนการเดินทางของคุณ