คุณจะออกเดินทางจาก มิลาน โซนทราเล ที่ตั้งอยู่ตรงกลางใจกลางเมือง มิลาน และสามารถชมวิวทิวทัศน์ที่สวยงามของเส้นทางในขณะที่คุณมาถึงที่ เจเนวา ซึ่งตั้งอยู่ในใจกลางของ เจนีวา.
คุณจะออกเดินทางจาก มิลาน โซนทราเล ที่ตั้งอยู่ตรงกลางใจกลางเมือง มิลาน และสามารถชมวิวทิวทัศน์ที่สวยงามของเส้นทางในขณะที่คุณมาถึงที่ เจเนวา ซึ่งตั้งอยู่ในใจกลางของ เจนีวา.
การเดินทางโดยรถไฟจาก มิลาน ไปยัง เจนีวา นั้นเต็มไปด้วยความงดงามของทิวทัศน์ที่หาที่เปรียบไม่ได้ในยุโรป โดยเริ่มต้นที่ สถานีมิลาน เซ็นทรัล ซึ่งเป็นหนึ่งในสถานีรถไฟที่ใหญ่ที่สุดในยุโรป และจบที่ สถานีเจนีวา คอร์โนแว็ง ใจกลางเมืองเจนีวา ระยะทางประมาณ 320 กิโลเมตร ใช้เวลาเดินทางประมาณ 4 ชั่วโมงในเส้นทางที่เร็วที่สุด
ในระหว่างการเดินทาง คุณจะได้ผ่านเมืองสำคัญๆ เช่น ดอโมดอสโซลา และ บริก ซึ่งเป็นจุดที่สามารถชมวิวของเทือกเขาแอลป์ที่งดงามได้อย่างเต็มตา และไม่ควรพลาด สะพานข้ามแม่น้ำโรน ที่บริก ซึ่งเป็นจุดที่สามารถถ่ายภาพได้อย่างสวยงาม
การเดินทางครั้งนี้ไม่เพียงแต่เป็นการข้ามพรมแดนจาก อิตาลี ไป สวิตเซอร์แลนด์ เท่านั้น แต่ยังเป็นการผจญภัยทางวัฒนธรรมและธรรมชาติ ที่จะทำให้ผู้ที่รักการเดินทางไม่สามารถลืมได้
รถไฟจาก มิลาน ไปยัง เจนีวา ใช้เวลาเท่าไหร่?
เวลาเดินทางประมาณ 4 ชั่วโมงถึง 4 ชั่วโมงครึ่ง ขึ้นอยู่กับประเภทการเชื่อมต่อและความถี่ของรถไฟ.
การเดินทางที่เร็วที่สุดจาก มิลาน ไปยัง เจนีวา โดยรถไฟคืออะไร?
การเดินทางที่เร็วที่สุดคือการใช้บริการรถไฟ TGV Lyria ซึ่งใช้เวลาประมาณ 3 ชั่วโมงครึ่ง.
รถไฟจาก มิลาน ไปยัง เจนีวา ราคาเท่าไหร่?
ราคาตั๋วโดยสารเริ่มต้นที่ประมาณ 29 € ถึง 90 € ขึ้นอยู่กับชั้นบริการและการจองล่วงหน้า.
มีรถไฟวิ่งตรงจาก มิลาน ไปยัง เจนีวา หรือไม่?
มีบริการรถไฟที่วิ่งตรงจาก มิลาน ไปยัง เจนีวา ไม่.
ระยะทางจาก มิลาน ไปยัง เจนีวา โดยรถไฟเท่าไหร่?
ระยะทางโดยรถไฟคือประมาณ 330 กิโลเมตร.
รถไฟจะหยุดที่เมืองใดบ้างในเส้นทางจาก มิลาน ไปยัง เจนีวา?
รถไฟหยุดที่เมืองใหญ่ๆ อย่าง Domodossola และ Lausanne ก่อนที่จะถึง เจนีวา.
เปิดประตูสู่ มิลาน เมืองแห่งแฟชั่นและศิลปะ อิตาลี ที่ผสานความงามของสถาปัตยกรรมโบราณเข้ากับความทันสมัยได้อย่างลงตัว มิลานไม่เพียงแต่เป็นศูนย์กลางการค้าและแฟชั่น แต่ยังมีสถานที่ทางประวัติศาสตร์และสถาปัตยกรรมที่น่าตื่นตาตื่นใจมากมายที่รอให้คุณไปค้นหา
มหาวิหารดูโอโม
มหาวิหารดูโอโม หรือ มหาวิหารมิลาน เป็นสัญลักษณ์ของเมือง ด้วยเสาอากาศที่ซับซ้อนและประติมากรรมที่งดงาม มหาวิหารแห่งนี้เป็นผลงานสถาปัตยกรรมโกธิคที่ใหญ่ที่สุดในโลก ตั้งอยู่ใจกลางเมืองมิลาน ค่าเข้าชมประมาณ €3 แต่หากต้องการเข้าชมจุดชมวิว ต้องเพิ่มอีก €9
ปราสาทสฟอร์เซสโก
ปราสาทสฟอร์เซสโก เป็นปราสาทที่มีชื่อเสียงซึ่งก่อสร้างในศตวรรษที่ 15 ตั้งอยู่ในพื้นที่กว้างขวางที่มีสวนสาธารณะและพิพิธภัณฑ์ ปราสาทนี้เคยเป็นที่ตั้งของตระกูลสฟอร์ซา ค่าเข้าชมฟรี แต่พิพิธภัณฑ์ภายในอาจมีค่าใช้จ่าย
บันไดหินอ่อนวิกตอเรีย แอมานูเอเล่ II
บันไดหินอ่อนวิกตอเรีย แอมานูเอเล II หนฒสนี่เป็นศูนย์กลางการช็อปปิ้งแห่งหนึ่งที่สวยงามที่สุดในโลก ด้วยการตกแต่งภายในที่ประณีตบรรจงและหลังคากระจกที่ทำให้แสงส่องสว่างไสวอย่างงดงาม ที่นี่เป็นสถานที่ที่เหมาะสำหรับการเดินเล่นและชมการแสดงของ มิลาน
ลา สกาลา
ลา สกาลา เป็นโรงละครโอเปร่าที่เป็นที่รู้จักไปทั่วโลก ที่นี่ไม่เพียงแต่ใช้สำหรับการแสดงโอเปร่า แต่ยังมีคอนเสิร์ตและการแสดงบัลเลท ค่าเข้าชมแต่ละการแสดงขึ้นอยู่กับที่นั่งและรายการแสดง
หอศิลป์ปินาโคเทกา ดิ บรรยารา
หอศิลป์ปินาโคเทกา ดิ บรรยารา ถือเป็นหนึ่งในหอศิลป์ที่สำคัญที่สุดใน อิตาลี มีการแสดงผลงานศิลปะของเลโอนาร์โด ดา วินชี และศิลปินชื่อดังอื่นๆ การเยี่ยมชมที่นี่จะทำให้คุณได้สัมผัสกับผลงานศิลปะชั้นเยี่ยม
มหาวิหารซานตา มาเรีย เดลเล่ กราซี
มหาวิหารซานตา มาเรีย เดลเล่ กราซี เป็นโบสถ์ที่มีชื่อเสียงซึ่งเป็นที่ประดิษฐานของภาพเขียน "The Last Supper" โดยเลโอนาร์โด ดา วินชี ตั้งอยู่ในอาคารที่มีชื่อเดียวกัน ค่าเข้าชมประมาณ €15 ต้องจองล่วงหน้า
พิพิธภัณฑ์โบสถ์ซาน มัวริซิโอ
พิพิธภัณฑ์โบสถ์ซาน มัวริซิโอ เป็นสถานที่ที่เก็บรวบรวมงานศิลปะศาสนาและประวัติศาสตร์ที่สำคัญของเมือง ตั้งอยู่ในโบสถ์ที่ก่อสร้างในยุคบาโรก ที่นี่เป็นโอกาสที่ดีสำหรับผู้ที่สนใจเรียนรู้เกี่ยวกับวัฒนธรรมและศาสนาของ อิตาลี
การเดินทางผ่านเมือง มิลาน นั้นเต็มไปด้วยความรื่นรมย์ ไม่ว่าจะเป็นการชมสถานที่ทางประวัติศาสตร์ที่งดงาม, ลิ้มลองอาหาร อิตาลี แท้ๆ หรือการเพลิดเพลินกับช้อปปิ้งในบรรยากาศของเมืองแห่งนี้ที่ไม่เหมือนใคร
เจนีวา เมืองแห่งแม่น้ำโรนที่เต็มไปด้วยเสน่ห์ทางประวัติศาสตร์และสถาปัตยกรรมจากยุคกลางจนถึงยุคใหม่ ทำให้เป็นจุดหมายปลายทางที่เหมาะสำหรับผู้ที่หลงใหลในวัฒนธรรมและประวัติศาสตร์.
พิพิธภัณฑ์แห่งอาร์ตและประวัติศาสตร์ (Musée d'Art et d'Histoire): หนึ่งในพิพิธภัณฑ์ที่ใหญ่ที่สุดใน เจนีวา และมีคอลเลกชันศิลปะที่หลากหลายตั้งแต่ยุคโบราณจนถึงสมัยใหม่ สถานที่ตั้งอยู่ในใจกลางเมือง เปิดทุกวันยกเว้นวันจันทร์ ค่าเข้าชมฟรี. มหาวิหารเซนต์ปีแยร์ (St. Pierre Cathedral): มหาวิหารหลักของ เจนีวา ที่มีประวัติยาวนานมากกว่า 850 ปี โดดเด่นด้วยสถาปัตยกรรมแบบโกธิคและโรมานเอสก์ เปิดทุกวัน และมีการเปิดให้เข้าชมภายในฟรี. พาเลส เดส เนชั่นส์ (Palais des Nations): อาคารที่เป็นศูนย์กลางการทำงานของสหประชาชาติ นอกจากความสำคัญทางการเมืองแล้ว ยังโดดเด่นด้วยสถาปัตยกรรมแบบ Art Deco การเยี่ยมชมต้องจองล่วงหน้า. น้ำพุเจนีวา (Jet d'Eau): หนึ่งในสัญลักษณ์ของเมืองที่ขึ้นชื่อเรื่องน้ำพุสูง 140 เมตร ตั้งอยู่ที่ท่าเรือ Eaux-Vives ไม่มีค่าเข้าชม และเป็นจุดที่สามารถชมวิวของเมืองได้อย่างงดงาม. สวนอังกฤษ (Jardin Anglais): สวนสาธารณะที่มีความสวยงามตั้งอยู่ริมฝั่งน้ำเลคจากเนปเชอร์ สวนนี้เต็มไปด้วยพันธุ์ไม้และประติมากรรมต่างๆ เป็นสถานที่ที่เหมาะสำหรับการพักผ่อน. ตลาดเมืองเก่า (Marché de la Vieille Ville): ตลาดที่เรียงรายไปด้วยร้านค้าขายอาหารท้องถิ่นและสินค้าฝีมือ มีเสน่ห์ด้วยบรรยากาศย้อนยุค เปิดทุกวันเสาร์ทั้งวัน. พิพิธภัณฑ์พาเทค ฟิลิป (Patek Philippe Museum): พิพิธภัณฑ์นาฬิกาที่เล่าเรื่องราวของการผลิตนาฬิกาใน เจนีวา และแสดงนาฬิกาโบราณที่มีค่าที่สุดในโลก ค่าเข้าชม 10€.การเดินทางรอบ เจนีวา จะให้ความรู้สึกที่ผสมผสานระหว่างความเก่าแก่และความทันสมัย ทำให้ทุกมุมของเมืองมีเสน่ห์ไม่เหมือนใคร และเต็มไปด้วยประสบการณ์ที่ท้าทายการค้นหา.
มิลาน เป็นหนึ่งในเมืองหลวงด้านการเดินทางโดยรถไฟใน ยุโรป โดยมี สถานีรถไฟมิลาโน เซ็นทรัล (Milano Centrale) เป็นสถานีหลักที่ใหญ่ที่สุดในเมือง นอกจากนี้ยังมีสถานีรถไฟสำคัญอื่นๆ เช่น สถานีรถไฟมิลาโน ปอร์ตา การิบัลดี (Milano Porta Garibaldi) และ สถานีรถไฟมิลาโน โรกอเร (Milano Rogoredo) ที่สามารถเชื่อมต่อการเดินทางไปยังเมืองต่างๆ ใน อิตาลี และประเทศใกล้เคียงได้อย่างสะดวกสบาย
สถานีรถไฟมิลาโน เซ็นทรัล ตั้งอยู่ที่ Piazza Duca d'Aosta, 1, 20124 Milano MI, อิตาลี เปิดให้บริการทุกวันตั้งแต่เวลา 04:00 น. ถึง 01:00 น. ณ สถานีนี้ คุณสามารถพบกับบริการเก็บกระเป๋าที่สะดวกสบาย เพื่อเก็บสัมภาระขณะที่คุณไปเที่ยวชมเมืองหรือรอเวลาเดินทางต่อ บริการนี้ช่วยให้นักท่องเที่ยวสามารถเพลิดเพลินกับการเดินท่องเที่ยวโดยไม่ต้องห่วงเรื่องกระเป๋าเดินทาง
เจนีวา มีสถานีรถไฟหลักที่ใหญ่และสำคัญที่สุดคือ Gare Cornavin นอกจากนี้ยังมีสถานีรองอื่นๆ เช่น Genève Eaux-Vives และ Genève Sécheron ที่ให้บริการเชื่อมต่อไปยังพื้นที่ใกล้เคียงและเมืองที่สำคัญอื่นๆ ในสวิตเซอร์แลนด์ และต่างประเทศ ซึ่งเชื่อมต่อคมนาคม อย่างมีประสิทธิภาพต่อทั้งภายในและระหว่างประเทศ
สถานี Gare Cornavin ตั้งอยู่ที่ Place de Cornavin, 1201 Genève ให้บริการเวลาทำการที่ยืดหยุ่นตั้งแต่เช้าจรดค่ำ เพื่อรองรับนักท่องเที่ยวและชาวเมืองที่เดินทางไปมา นอกจากนี้ยังมีบริการเก็บกระเป๋า ซึ่งมีประโยชน์มากสำหรับผู้ที่ต้องการสำรวจเมืองโดยไม่ต้องแบกของหนักๆ ติดตัว สถานีนี้ให้บริการครบครัน ซึ่งรวมถึงร้านค้า ร้านอาหาร และบริการต่างๆ เพื่อความสะดวกสบายสูงสุดของผู้ใช้บริการ
จองล่วงหน้า:
เช่นเดียวกับค่าตั๋วเครื่องบิน ราคาตั๋วรถไฟมีแนวโน้มที่จะเพิ่มขึ้นเมื่อใกล้ถึงวันเดินทาง การจองล่วงหน้าหลายสัปดาห์หรือหลายเดือนสามารถช่วยคุณประหยัดเงินได้มาก
เดินทางในช่วงเวลาที่ไม่ค่อยมีคนใช้บริการ:
หลีกเลี่ยงการเดินทางในช่วงเวลาที่มีคนใช้บริการมาก เช่น เช้าวันธรรมดาและช่วงเย็น เลือกเดินทางในช่วงกลางวัน ช่วงเย็น หรือช่วงกลางสัปดาห์เมื่อมีความต้องการน้อยกว่า
พิจารณารถไฟที่ช้าลงหรือเส้นทางที่ไม่วิ่งตรง:
รถไฟด่วนหรือรถไฟความเร็วสูงอาจประหยัดเวลา แต่ก็มักจะแพงกว่า การเลือกใช้บริการรถไฟท้องถิ่นหรือบริการที่ช้าลงสามารถลดค่าโดยสารได้
มองหาข้อเสนอพิเศษและโปรโมชั่น:
ผู้ประกอบการรถไฟบางครั้งมีโปรโมชั่นหรือข้อเสนอพิเศษ โดยเฉพาะในช่วงฤดูที่ไม่ใช่ฤดูท่องเที่ยว การสมัครรับจดหมายข่าวอาจคุ้มค่า นอกจากนี้ยังมีส่วนลดตั๋วกลุ่มหรือตั๋วไปกลับบางครั้ง ดังนั้นพิจารณาตัวเลือกเหล่านี้หากเหมาะสมกับแผนการเดินทางของคุณ